แน่นอนว่า เย่ฟานไม่รู้อะไรเกี่ยวกับการตัดสินใจประชุมของหวู่เหมิง
ในเวลานี้เขากำลังเร่ร่อนอยู่ท่ามกลางภูเขาและแม่น้ำในฤดูร้อน
ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เย่ฟานก็เดินทางไปเกือบทุกมุมของหยานเซีย
ฉันเคยไปเจียงเป่ยแล้วและฉันก็มองหาเจียงตงด้วย
แม้แต่ชายแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือและสามจังหวัดทางตะวันออกเฉียงเหนือก็มีรอยเท้าของเย่ฟาน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีที่อยู่ของบุคคลที่เย่ฟานกำลังมองหา
ในเวลานี้ ครึ่งปีผ่านไปนับตั้งแต่เย่ฟานออกจากดินแดนลับของอินเดีย
เย่ฟานไม่รู้ว่าสถานการณ์ระหว่างประเทศพัฒนาไปไกลแค่ไหน
จากข่าวเขามักจะเห็นว่าประเทศสำคัญ ๆ กำลังพัฒนาธุรกิจการเดินทางในอวกาศอย่างจริงจังและมีการสร้างยานอวกาศจำนวนมาก
นอกจากนี้ทุกประเทศยังกักตุนธัญพืชอีกด้วย ทำให้ราคาธัญพืชในต่างประเทศพุ่งสูงขึ้นในครึ่งปี
จากเบาะแสต่างๆ เย่ฟานก็รู้สึกได้ถึงสิ่งผิดปกติเล็กน้อย
นั่นคือผู้นำระดับสูงของประเทศต่าง ๆ ได้เริ่มออกจากทางไปสู่วันโลกาวินาศแล้ว
“แต่นี่คือโลกอันกว้างใหญ่ที่มีผู้คนหลายพันล้านคน”
“เมื่ออวสานมาถึง จะมีคนขึ้นเรือโนอาห์ได้กี่คน”
“ในเวลานั้น ผู้เดียวที่จะถูกทำลายไปพร้อมกับโลกคือคนธรรมดานับพันเหล่านั้น”
ดังคำกล่าวที่ว่าความเจริญรุ่งเรืองทำให้ผู้คนเดือดร้อน
ความตายผู้คนก็ทนทุกข์ทรมาน
เมื่อโลกสงบสุข ผู้คนจำนวนมากที่ทำงานหนักที่สุดและได้รับเงินเดือนดีที่สุด
และคนร่ำรวยและมีอำนาจซึ่งนั่งอยู่ที่บ้านก็สามารถเพลิดเพลินกับชีวิตที่หรูหราซึ่งคนธรรมดาไม่สามารถบรรลุได้ตลอดชีวิต
เมื่อวันโลกาวินาศมาถึง ผู้คนส่วนใหญ่จะถูกทำลายล้างด้วยขี้เถ้า แต่บุคคลสำคัญที่สูงส่งและมีอำนาจเหล่านั้นยังสามารถหลบหนีจากโลกด้วยยานอวกาศและได้รับความหวังในการมีชีวิต
นี่ยุติธรรมไหม?
มันไม่ยุติธรรม!
แต่เย่ฟานไม่มีทางเลือก
เพราะความสามารถของเขามีจำกัด
เมื่อวันโลกาวินาศมาถึง สิ่งเดียวที่เขาสามารถช่วยได้คือญาติและเพื่อนที่อยู่รอบตัวเขา