กริ๊ง กริ๊ง~
หยดน้ำตาขนาดเท่าเมล็ดถั่วยังคงร่วงหล่นลงมาบนใบหน้าของเย่ฟาน
เมื่อมองดูหญิงสาวที่กำลังจะตายซึ่งมีผมสีขาวอยู่ในอ้อมแขนของเขา เย่ฟานก็รู้สึกว่าหัวใจของเขากำลังจะแตกสลาย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เย่ฟานต้องทนทุกข์ทรมานมากมายและอดทนต่อความยากลำบากมากมาย
แต่ก็ไม่เคยมีช่วงใดที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจและเศร้าได้เท่านี้
มันเหมือนกับมือใหญ่ที่เกือบจะฉีกอวัยวะภายในของเขาเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
อารมณ์เศร้าแบบนั้นมีล้นหลาม
เย่ฟานแทบจะหายใจไม่ออก
แต่หญิงสาวโง่ในอ้อมแขนของเขายังคงยิ้มอยู่
เขายังเอื้อมมือออกไปช่วยเย่ฟานเช็ดน้ำตาจากหางตาของเขา
“อาจารย์ อย่าร้องไห้ มันจะดูไม่ดีถ้าคุณร้องไห้”
เยว่เอ๋อพูดด้วยตัวสั่น คำพูดที่อ่อนแอและอ่อนแอของเธอเปรียบเสมือนเทียนในสายลม ซึ่งสามารถดับลงได้เล็กน้อย
“หยุดพูด เยว่เอ๋อ หยุดพูด”
“คุณอดทนไว้”
“อาจารย์จะหาคนมาช่วยเหลือคุณ”
“ฉันจะไปเยว่เหยา เยว่เหยาช่วยคุณไม่ได้ ฉันจะไปว่านเอ๋อ ถ้าว่านเอ๋อช่วยไม่ได้ ฉันจะไปหาย่า”
“ฉันจะไม่ปล่อยให้คุณตาย!”
“ไม่ได้อย่างแน่นอน!”
“อาจารย์จะไม่มีวันปล่อยให้คุณตาย”
คำพูดของเย่ฟานเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ทันใดนั้นเขาก็อุ้มหญิงสาวขึ้นมาในอ้อมแขนแล้ววิ่งลงบันไดอย่างบ้าคลั่ง
หลายคนกังวลเมื่อเห็นฉากนี้
ฉันแค่รู้สึกว่าเย่ฟานสับสน
หลังจากปีนมาถึงจุดนี้ได้ในที่สุดเขาก็วิ่งกลับมาอีกครั้งเหรอ?
พระองค์ไม่ได้เสด็จขึ้นสู่สวรรค์หรือ?
เขาไม่อยากเป็นนางฟ้าเหรอ?
เขาจะละทิ้งการแสวงหาผู้หญิงหรือไม่?
เย่ฟานไม่ได้ยินการสนทนาเหล่านี้
แม้ว่าเขาจะได้ยินมันเขาก็คงไม่สนใจ
ในความจริงจังของเย่ฟาน แน่นอนว่าความแข็งแกร่งเป็นสิ่งสำคัญ