หลังจากคิดสักครู่ เขาก็ถอนหายใจและกล่าวว่า “เมื่อคุณนายเย่ถาม ข้าพเจ้าจะตอบตามความจริง พ่อแม่ของคุณหนูกู่ และพ่อแม่ของคุณชาย เป็นเพื่อนสนิทกัน ตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ของทั้งสองได้หมั้นหมายที่จะแต่งงานกับคุณหนูกู่ กับคุณชาย คุณหนูกู่ เชื่อเสมอมาว่าเธอคือคู่หมั้นของคุณชาย แม้ว่าคุณชายจะหายตัวไปนานแล้ว แต่เธอยังคงเชื่อมั่นในเรื่องนี้”
เซียว ชู่หราน ตกใจอย่างมาก เธอไม่ได้ตกใจเมื่อได้ยินคำตอบนี้ แต่เธอก็รู้สึกไม่สบายใจอย่างมาก
ไม่เพียงแต่เพราะ เย่เฉิน ปกปิดตัวตนและประสบการณ์ชีวิตของเขาจากเธอเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเธอรู้ว่าเย่เฉิน และ กู่ ชิวยี่ จำกันและกันได้นานแล้ว! มิฉะนั้นแล้วเหตุใด เย่เฉิน จึงพาตัวเองไปรับประทานอาหารเย็นกับกุ่ ชิวยี่?
ในขณะนี้ เซียว ชูหราน รู้สึกซับซ้อนมากยิ่งขึ้น
เธอเข้าใจได้ในระดับหนึ่งว่า เย่เฉิน เก็บเรื่องราวชีวิตของเขาไว้เป็นความลับจากเธอ อย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถยอมรับความจริงได้ที่เขาได้พบกับหญิงสาวที่เขาหมั้นหมายและพาเธอมาด้วย ในขณะที่เธอเป็นคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องราวนี้
เธอรู้ว่าตัวตนและภูมิหลังของเธอไม่คู่ควรกับเย่เฉิน แม้แต่ปู่ของเธอก็เป็นเพียงคนรับใช้ในครอบครัวของเย่เฉิน ยิ่งไปกว่านั้น เย่เฉิน ไม่เพียงแต่มีภูมิหลังของตระกูลเย่ เท่านั้น แต่ตระกูลอัน ของแม่ของเขายังแข็งแกร่งกว่าตระกูลเย่ มากอีกด้วย
ระยะห่างระหว่างคนสองคนนั้นเกือบจะเทียบเท่ากับจุดที่เรียกว่าจุดตรงข้ามกันในแนวคิดทางภูมิศาสตร์ ซึ่งก็คือตำแหน่งที่อยู่ตรงข้ามกับตัวเราเองในอีกฟากหนึ่งของโลก เป็นระยะทางที่ไกลที่สุดในโลก
เมื่อมองดู กู่ ซิ่วยี่ อีกครั้ง แม้แต่ เซียว ชูหราน ยังรู้สึกว่าเธอคือคนที่เหมาะสมกับ เย่เฉิน
เธอไม่เพียงแต่มีภูมิหลังครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ทั้งสองครอบครัวก็ยังเป็นเพื่อนเก่ากันด้วย ทั้งสองเติบโตมาด้วยกันและหมั้นกัน ไม่ว่าจะมองยังไง เธอก็เหมาะสมกับเย่เฉินมากกว่าตัวเขาเอง
อารมณ์ของ เซียว ชู่หราน จู่ๆ ก็ตกต่ำลงอย่างมาก เมื่ออยู่ต่อหน้า กู่ ซิ่วยี่ เธอรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อยกว่าเธอ เธอจะเทียบเทียมกับเธอได้อย่างไร?
ถ้าเป็นเช่นนั้น จุดประสงค์ของการแต่งงานระหว่างฉันกับเย่เฉินคืออะไร?
ตอนที่ฉันแต่งงานกับเขา ฉันไม่ได้รักเขาเลย
อย่างไรก็ตาม ฉันได้สัญญากับปู่ไว้แล้วว่าฉันจะไม่ผิดคำพูด ดังนั้นฉันจึงไม่เคยคิดที่จะหย่ากับเขาเลย
เมื่อคิดดูตอนนี้ มันก็เหมือนกับการทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับปู่มากกว่า
ในตอนแรก ฉันยังบอก เย่เฉิน อย่างชัดเจนเป็นการส่วนตัวด้วยว่าฉันแต่งงานกับเขาเพียงเพราะปู่ของฉันขอให้ฉันทำเช่นนั้น และพวกเขาจะไม่เป็นสามีภรรยากัน หาก เย่เฉิน เห็นด้วย ฉันก็จะไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ หาก เย่เฉิน ไม่เห็นด้วย ฉันก็จะไม่บังคับเขา
จริงๆ แล้ว เมื่อฉันพูดแบบนี้ ฉันอยากให้ เย่เฉิน ยอมแพ้ตามความคิดริเริ่มของตัวเอง แต่ฉันไม่คาดหวังว่า เย่เฉิน จะตกลงโดยไม่ลังเลในตอนนั้น แม้ว่าเขาจะต้องนอนบนพื้นเป็นเวลาหลายปีหลังแต่งงานแต่เขาก็ไม่มีเรื่องร้องเรียนใดๆ และไม่เคยริเริ่มที่จะข้ามเส้นเลย
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ความรู้สึกของ เซียว ชูหราน ที่มีต่อ เย่เฉิน เติบโตมาจากไม่มีอะไรเลยจนค่อยๆ รุนแรงขึ้น แต่เธอมองเย่เฉินเป็นสมาชิกในครอบครัวเสมอมา และตัวเธอเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามีความรักหรือไม่
แต่ในขณะนี้เธอกลับรู้สึกหัวใจสลายขึ้นมาทันที
ตั้งแต่วินาทีนั้นเอง เธอตระหนักได้ว่าเธอมีเงาแห่งความรักที่มีต่อเย่เฉินอยู่ในใจแล้ว โดยไม่รู้ว่าเมื่อใด…
เชียร์กู่ชิ่วอี้กับเย่เฉินเหมือนเดิม เซียวซูหรันไม่สมควรได้แต่งกับเย่เฉิน เพราะไม่ได้รักกันมาตั้งแต่แรก แต่เป็นเพราะปู่ของเธอที่เป็นคนรับใช้อยากดองกับตระกูลใหญ่ก็แค่นั้นแหละ เหมือนแม่ของเธอหม่าหลานที่จับพ่อของเธอ พอตอนนี้กลับมารู้สึกรักพระเอกขึ้นมาซะงั้นพอรู้ความจริงว่าพระเอกฐานะดีกว่าเธอเป็น 100เท่า ขนาดแม่พระเอกยังไม่ชอบเซียวซูหรันเลย
จุดเริ่มต้นไม่ได้เกิดจากความรัก แต่เป็นการตอบแทนบุญคุณ ไม่งั้นคงไม่ให้นอนข้างเตียงตั้งหลายปี พออยู่นานๆกลายเป็นความเคยชิน ซึ่งไม่ใช่ความรัก เย่เฉินเป็นสุภาพบุรุษรักษาคำพูด จึงไม่เคยทำอะไร
ทุกคนพูดถูกต้อง คนที่รักและเทิดทูนเย่เฉินที่สุด คือกู่ชิวยี่ ทุกสิ่งที่ทำมาตลอดตั้งแต่เย่เฉินหายตัวไปคือตามหาคู่หมั่นอย่างไม่ลดละ ถึงตอนนี้ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากู่ชิวยี่
ปู่ของชูหรันวางแผนให้แต่งงานกันเพราะความโลภ ถ้าไม่รู้ตัวตนของเย่เฉินการแต่งงานก็คงไม่เกิดขึ้น ชูหรันและเย่เฉินก็ไม่ได้แต่งงานเพราะความรัก กู้ชิวอี้เหมาะสมกว่าในทุกเหตุผล ส่วนนานาโกะก็เหมาะสมในแง่ของความสามารถที่อยู่เคียงข้างเย่เฉินได้ดีกว่าทุกคุน
ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องนี้พระเอกหน้าจะได้เมียหลายคน
เฮ้อออออ..เหนื่อย
ไม่เคยติดตามอ่านอะไรเป็นเวลายาวนานขนาดนี้มาก่อน 😟