“คืนนี้อยากทานอาหารเย็นด้วยกันไหม?”
“ไม่เอา พวกเธอไปเถอะ ฉันมีธุระต้องทำคืนนี้” เธอปฏิเสธ
คืนนี้เป็นวันที่ 57 หลังจากการจากไปของแม่ ว่ากันว่าผู้ที่ล่วงลับจะกลับบ้านในวันนี้เพื่อไปพบคนที่ตนรัก
หากหลังจากความตายยังมีวิญญาณอยู่จริง เธอไม่รู้ว่าแม่ของเธอจะกลับไปบ้านไหน
แต่สำหรับเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือทำอาหารในอพาร์ตเมนต์ที่เช่าและแสดงความไว้อาลัยต่อแม่
ทันทีที่หวังอวี้ซินเดินออกจากโรงแรม เธอก็ถูกตบหน้าอย่างแรง
ตบนั้นทำให้เธอเซถอยหลังไปสองก้าว ก่อนจะทรงตัวแทบไม่อยู่
แก้มข้างหนึ่งของเธอปวดแสบปวดร้อน หวังอวี้ซินเงยหน้าขึ้นมองกู้เฉียนเหยาที่ยืนอยู่ตรงหน้า เธอยังคงเหมือนเดิม ตบหน้าเธอทุกครั้งที่เจอ
หากก่อนหน้านี้นางยอมประนีประนอมต่อหน้ากู้เฉียนเหยาเพียงเพื่อให้แม่รู้สึกดีขึ้น นางก็ไม่ต้องกังวลเช่นนี้อีกต่อ
ไป ยิ่งไปกว่านั้น กู้เฉียนเหยาคือฆาตกรที่ฆ่าแม่ของนาง!
“อีตัวเอ๊ย พูดจาไร้สาระไปทั่ว…”
ก่อนที่กู้เฉียนเหยาจะพูดจบ เสียงปรบมือก็ดังขึ้น
คราวนี้เป็นหวังอวี้ซินที่ตบกู้เฉียนเหยาตรงๆ
ใบหน้าของกู่เฉียนเหยาเต็มไปด้วยความตกตะลึง ยกมือปิดแก้มที่ถูกตบ “แก…กล้าตีฉันเหรอ?!” สีหน้านั้นราวกับไม่เคยคาดคิดว่าหวังอวี้ซินจะโต้กลับ หวัง
อวี้ซินพูดอย่างเย็นชา “ทำไมฉันถึงไม่กล้าตีแก ในเมื่อแกตบฉันทันที ฉันก็แค่ตอบแทนบุญคุณ”
“หวังอวี้ซิน แกคิดว่าแกเป็นใครกัน ฉันตีแก แกก็แค่คนธรรมดาที่อยู่ใต้ชายคาเดียวกัน ถ้าไม่ใช่เพราะตระกูลกู่ แกก็คงยังกินอาหารเน่าๆ ในสลัมอยู่ดี!” กู่เฉียนเหยาสบถ
“ใช่ ตระกูลกู่เลี้ยงดูข้ามา ข้าจึงทนทุกสิ่งที่เจ้าทำกับข้ามาก่อนหน้านี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ข้ารับใช้เจ้าราวกับข้ารับใช้ในตระกูลกู่ ปล่อยให้เจ้าดูถูกและกล่าวโทษข้า แต่กู่เฉียนเหยา แม่ข้าแต่งงานเข้าตระกูลกู่อย่างมีศักดิ์ศรี แม่ข้าเลี้ยงดูข้ามาในตระกูลกู่ ข้าจึงไม่ได้เป็นหนี้เจ้า!” หวังอวี้ซินมองอีกฝ่ายด้วยสายตาเย็นชา “แต่เจ้าที่ฆ่าแม่ข้า วันนี้กลับทำตัวบ้าๆ บอๆ อยู่นี่!”
คำพูดของเธอดูเหมือนจะทำให้กู้เฉียนเหยานึกถึงอะไรบางอย่าง เธอจึงจ้องมองหวังอวี่ซินอย่างดุเดือด “แม่ของเธอล้มลงเอง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉัน? อีบ้า! ถ้าเธอไม่ได้เล่าเรื่องไร้สาระพวกนี้ให้ฉันฟัง แล้วอี้เฉียนโม่จะพูดถึงการตายของแม่เธอต่อหน้าพ่อฉัน แถมยังมาเตือนฉันเรื่องนี้อีกได้ยังไง? เธอพูดว่าอะไรนะ?”
หวังอวี่ซินตกตะลึง อี้เฉียนโม่บอกว่าเขาจะช่วยเธอคุยกับตระกูลกู่ เธอคิดว่าเขาแค่พูดเล่นๆ แต่เธอไม่คิดว่าเขาจะทำจริงๆ
“งั้นเธอกำลังหาเรื่องฉันอยู่เหรอ?” หวังอวี่ซินถาม “ถ้าฉันบอกอี้เฉียนโม่ว่าเธอเป็นฆาตกรของแม่ฉัน และอยากให้เขาช่วยฉันให้เธอสารภาพผิด ติดคุก และชดใช้ค่าชีวิตแม่ฉัน เธอจะเชื่อฉันไหม?”
เมื่อเห็นสีหน้าของกู้เฉียนเหยาเปลี่ยนไปหลังจากได้ยินคำพูดของเธอ หวังอวี่ซินก็รู้สึกยินดีอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
เธอสัมผัสได้ถึงความกลัว แต่สิ่งที่เธอกลัวไม่ใช่เธอ แต่เป็นอี้เฉียนโม่ที่เธอกำลังพูดถึงต่างหาก
ว่าแต่มันน่าเศร้าตรงไหนกัน
เธอมักจะรู้สึกขุ่นเคืองกับความอยุติธรรมของโลกและคนรวยที่มีอำนาจ
แต่สุดท้ายแล้ว เธอก็แค่ฉวยโอกาสจากอำนาจของคนอื่น ใช้ประโยชน์จากอี้เฉียนโม่ที่ร่ำรวยและมีอำนาจมากกว่าตระกูลกู่ เพื่อขู่กู้เฉียนเหยา
“แก…พูดแบบนี้กับอี้เฉียนโม่จริงๆ เหรอ?” กู้เฉียนเหยาพูดด้วยใบหน้าซีดเผือด
“เดาสิ” หวังอวี้ซินตอบอย่างคลุมเครือ
“อี๋ คิดว่าอี้เฉียนโม่จะช่วยแกเหรอ? ร่วมกับแก? คิดว่าตัวเองเป็นใคร! แล้วยังอยากให้อี้เฉียนโม่ช่วยจัดการกับตระกูลกู่อีก!” กู้เฉียนเหยายกมือขึ้นอีกครั้ง อยากจะต่อยหน้าหวังอวี้ซิน